วันอังคารที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2558

พระฤาษีนนทิเกศวรหรือวาลมีกิ. หน้าวัว.ตาวัวและวัชรมถค


     ประวัติ ฤาษีนนทิเกศวรหรือวาลมีกิ,หน้าวัว,ตาวัวและวัชรมฤค เดิมที่เป็นพระสงฆ์ตาบอดอยู่เมืองศรีเทพ (ปัจจุบันอยู่ในจังหวัดลพบุรี) แต่ชอบเล่นแร่แปรธาตุท่านพยายามหาตำราสูตรต่างๆมาและตำราที่สร้างสรรค์ขึ้น เองเพื่อต้องการสิ่งที่วิเศษ จนท่านสามารถสำเร็จวิชาปรอทคือสามารถทำให้ปรอทแข็งตัวได้ท่านดีใจมาก จนวันหนึ่งท่านทำปรอทตกลงที่ถ่ายมูลท่านหายังไงก็หาไม่เจอให้ลูกศิษย์หาก็ กลัวมันรู้ จึงปิดปากเงียบจนลูกศิษย์ได้ไปเห็นแสงสีเขียวประหลาดเข้า จึงวิ่งแจ้นไปบอกท่านดีใจมากจึงรีบไปบอกให้ลูกศิษย์หยิบขึ้นมา
เลอะช่างมันเดี้ยวล้างได้ และก็เก็บใส่โถน้ำผึ้งไว้ ต่อมาท่านก็ขุ่นคิดว่า เออ เราก็มีของวิเศษอยู่ แล้วทำไมจีง
ไม่ ลองรักษาโรคตาบอดซะเลยละ ท่านจึงใช้ให้ลูกศิษย์ไปหาศพคนที่เพิ่งตายใหม่ๆและให้ควักลูกตามา เจ้าลูกศิษย์หาเท่าไรก็หาไม่เจอ จนไปเจอศพลูกวัวที่เพิ่งตายใหม่ๆเข้าจึงควักลูกตากลับมาให้ท่านแทน

   ต่อมาท่านจึงควักลูกตาที่เสียออกแล้วใส่ลูกตาวัวแทนหร้อมใช้ปรอทวิเศษของท่านคลึงที่ดวงตาไปมาผลปรากฏว่าเกิดอภินิหารขึ้น
ตาของท่านที่บอดกลับมองเห็นอีกครั้ง ท่านจึงดีใจมากแต่ซักพักท่านก็ต้องตกใจ เมื่อมองหน้าที่กระจกใบหน้าจากคนก็กลายเป็นหน้าวัว
ฝ่ายลูกศิษย์ท่านต้องขอโทษท่านเป็นอย่างมาก แต่ท่านก็ให้อภัยและก็คิดว่า...
เฮ่อ ต้องลาเพศจากการเป็นสงฆ์แล้วสิเรา เพราะกฏห้ามสัตว์เดียรฉานบวชเป็นพระ ท่านจึกสึกจากการเป็นพระมาบวชฤาษีแทน จึงมีชื่อว่า พระฤาษีตาวัวหรือหน้าวัว เข้าป่าสร้างอาศรม บำเพ็ญตบะ
และคิดค้นสร้างสรรค์แสวงหาตำราเล่นแร่ แปรธาตุใหม่ๆ จนพบกลุ่ม 10 ฤาษี โดยมี ฤาษีพิลาไลย ฤาษีตาไฟ เป็นใหญ่ จึงของอาศัยอยู่ด้วยๆจาก10เป็น11ด้วยท่านเคยเป็นพระจึงมีตบะ เหนือฤาษีองค์อื่น และมีความสามารถในการเล่นแร่แปรธาตุทั้งเชิงตำราเชิงคิดสร้างสรรค์เอง ในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นหมอหรือนักเคมี จะบูชาพระฤาษีตาวัวหรือหน้าวัวกันไม่น้อย ท่านจัดว่าเป็นฤาษีของไทยทีมีชื่อเสียงมากที่สุดในสยาม

      ขอบคุณบทความจาก
            
        

1 ความคิดเห็น: